มาดูเหตุผลว่าทำไม เครื่องตัดหญ้า ถึงสตาร์ทยาก?

ถ้าคุณเป็นเจ้าของบ้านที่มีสนามหญ้า ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เชื่อว่าต้องเคยเจอโมเมนต์สุดหงุดหงิดแบบนี้แน่ ๆ … วันหยุดสุดสัปดาห์ ตั้งใจจะออกมาตัดหญ้า เตรียมเครื่องตัดหญ้าคู่ใจออกมา พอจับเชือกสตาร์ท ดึงที ดึงอีกที… เฮ้อ! มันไม่ติดสักที! บางทีเหงื่อออกมากกว่าตอนตัดหญ้าเสียอีก

ผมเองก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้น จนบางครั้งเผลอคิดในใจว่า “หรือเราควรจ้างคนมาตัดดีกว่า?” แต่พอได้ลองสังเกต ปรับแก้ทีละจุด ก็เริ่มเข้าใจว่าเครื่องตัดหญ้ามันก็เหมือนคนครับ มีอาการงอแงบ้างถ้าไม่ได้ดูแล ถูกใช้งานผิดวิธี หรือปล่อยไว้นานโดยไม่สนใจ วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาดูว่า จริง ๆ แล้วเครื่องตัดหญ้าที่สตาร์ทยาก มันมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง? และมีวิธีจัดการยังไงให้สตาร์ทติดง่ายเหมือนใหม่

เครื่องตัดหญ้า สตาร์ทยากไม่ได้มีเหตุผลเดียวเสมอไป

หลายคนพอเจอปัญหาก็มักจะรีบฟันธงว่า “คาร์บูเรเตอร์เสียแน่ ๆ” หรือ “เครื่องมันพังแล้วชัวร์” แต่เอาจริง ๆ แล้ว มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นหรอกครับ เพราะปัญหานี้มีหลายปัจจัยมาก ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ง่าย ๆ อย่างน้ำมันเสื่อม ไปจนถึงปัญหาชิ้นส่วนภายในที่ซับซ้อนขึ้น

เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ เครื่องตัดหญ้า สตาร์ทยาก

น้ำมันเชื้อเพลิง – ตัวการใหญ่ที่มักถูกมองข้าม

หลายครั้งผมได้ยินเพื่อนบ้านบ่นว่า “ทำไมเครื่องมันไม่ติดเลย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งใช้งานไม่กี่ครั้งเอง” พอถามต่อว่าใช้น้ำมันอะไร คำตอบที่ได้เล่นเอายิ้มแห้งเลยครับ “อ๋อ…น้ำมันที่เหลือจากรถมอเตอร์ไซค์เมื่อปีที่แล้ว” 

จริง ๆ แล้ว น้ำมันเก่า คือศัตรูตัวร้ายของเครื่องยนต์เล็ก ๆ อย่างเครื่องตัดหญ้าเลยนะครับ เพราะน้ำมันเบนซินถ้าค้างไว้นานเกิน 1–2 เดือน คุณสมบัติของมันจะเริ่มเสื่อม ติดไฟยากขึ้น แถมถ้าเป็นน้ำมันผสมก็อาจแยกชั้น ทำให้เผาไหม้ไม่ดีไปอีก ผลสุดท้ายไม่ใช่แค่เครื่องติดยาก แต่ยังพาเอาคาร์บูเรเตอร์สกปรกจนทำให้เครื่องงอแงตามมาอีก

เล่าจากประสบการณ์จริง: ผมเคยพลาดครั้งใหญ่ครับ ปล่อยให้น้ำมันเก่าค้างในถังเกือบครึ่งปี พอหยิบมาใช้ ดึงเชือกสตาร์ทจนไหล่แทบจะหลุด เครื่องก็ยังไม่ติดซะที สุดท้ายต้องถ่ายน้ำมันเก่าออกให้หมด เติมใหม่เข้าไป ถึงจะกลับมาติดปุ๊บเหมือนปกติ ตอนนั้นถึงได้รู้เลยว่า น้ำมันเก่านี่ตัวดีจริง ๆ

วิธีแก้ไข

• ใช้น้ำมันใหม่เสมอ ถ้าไม่ได้ใช้บ่อย ควรเติมทีละน้อย ๆ ให้พอใช้
• เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ต้องผสมน้ำมัน 2T ให้ถูกอัตราส่วน อย่าใส่มั่ว ๆ
• ถ้ารู้ว่าช่วงนี้จะไม่ได้ใช้นาน ควรถ่ายน้ำมันออกจากถังทิ้งก่อนเก็บเครื่อง จะได้ไม่ต้องมาเจอปัญหาติดยากทีหลัง

คาร์บูเรเตอร์อุดตัน

จริง ๆ แล้ว คาร์บูเรเตอร์ ก็คือหัวใจเล็ก ๆ ของเครื่องตัดหญ้าเลยครับ หน้าที่ของมันคือควบคุม “อากาศ” และ “น้ำมัน” ให้ผสมกันในอัตราที่พอดี กลายเป็นเชื้อเพลิงให้เครื่องทำงานได้ แต่ถ้าวันไหนมันเริ่มสกปรก อุดตันด้วยคราบน้ำมันเก่าหรือมีเศษฝุ่นเล็ก ๆ เข้าไป ก็เหมือนกับเราหายใจเอาฝุ่นเข้าไปแทนออกซิเจน ผลลัพธ์คือเครื่องก็เริ่มงอแง สตาร์ทยาก บางทีก็ไม่ติดเอาซะเลย

ผมเคยเจอกับตัวเองเหมือนกันครับ เครื่องที่บ้านอยู่ ๆ ก็ไม่ยอมติด ทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนน้ำมันใหม่ ๆ สุดท้ายลองถอดคาร์บูเรเตอร์ออกมาดูถึงได้เห็นคราบเหนียว ๆ ติดอยู่เต็มไปหมด พอทำความสะอาดเสร็จ ประกอบกลับไป แค่ดึงเชือกทีเดียวก็ติดปุ๊บเลย ตอนนั้นรู้สึกเลยว่า อ๋อ…ที่ผ่านมามัวแต่โทษน้ำมัน ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ตัวต้นเหตุคือเจ้านี่เอง

วิธีแก้ไข

• ล้างคาร์บูเรเตอร์เป็นระยะ โดยใช้น้ำยาล้างคาร์บู
• เปลี่ยนกรองอากาศถ้ามีคราบน้ำมันหรือฝุ่นเกาะ
• หากล้างแล้วยังไม่หาย อาจต้องเปลี่ยนใหม่

หัวเทียนเสื่อม หรือประกายไฟไม่พอ

หัวเทียน จริง ๆ แล้วก็คือ “ไม้ขีดไฟ” ของเครื่องยนต์เลยครับ หน้าที่ของมันคือจุดประกายไฟในห้องเผาไหม้ เพื่อให้น้ำมันกับอากาศที่ผสมกันอยู่ติดไฟ แล้วเครื่องก็หมุนต่อได้ แต่ถ้าวันไหนหัวเทียนเริ่มเสื่อม สกปรก มีคราบดำ ๆ เกาะ หรือระยะห่างระหว่างเขี้ยวไม่พอดี ประกายไฟที่ควรจะออกแรง ๆ กลายเป็นหายไปบ้าง เบาบ้าง สุดท้ายเครื่องก็สตาร์ทยากหรือไม่ติดเลย

ผมเองก็เคยเจอครับ ตอนนั้นเครื่องตัดหญ้าบ้านผมดื้อสุด ๆ ดึงเชือกจนเหนื่อยก็ไม่ติด สุดท้ายเลยลองถอดหัวเทียนออกมาดู ถึงได้เห็นว่ามันดำปี๋เหมือนโดนรมควันมาเป็นปี ๆ พอเอาไปเช็ด ๆ ขัด ๆ ใส่กลับเข้าไป ปรากฏว่าดึงแค่สองทีก็ติดทันที แบบนี้แหละที่ทำให้เข้าใจเลยว่า หัวเทียนตัวเล็ก ๆ แต่มีผลต่อเครื่องใหญ่ ๆ มากจริง ๆ

เพราะงั้นถ้าเจออาการเครื่องงอแง อย่าลืมเช็กหัวเทียนด้วยนะครับ มันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ บางทีแค่ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ เครื่องก็กลับมาติดง่ายเหมือนเดิมแล้วครับ

วิธีแก้ไข

• ถอดหัวเทียนออกมาเช็กทุก ๆ 2-3 เดือน
• ขัดเขม่าเบา ๆ หรือเปลี่ยนใหม่หากใช้มานานเกินปี
• ตรวจสอบช่องว่างของเขี้ยวหัวเทียนตามคู่มือ

การบำรุงรักษาที่ไม่สม่ำเสมอ

หลายบ้านซื้อเครื่องตัดหญ้ามาเพราะอยากให้สนามดูเรียบร้อย แต่เอาจริง ๆ ใช้งานจริงแค่เดือนละครั้งสองครั้งเท่านั้นเองครับ พอตัดเสร็จก็เก็บเข้าหลังบ้าน ไม่ล้าง ไม่เช็ก ไม่ดูแลอะไรเลย ปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ พอถึงเวลาจะหยิบมาใช้จริง กลายเป็นว่าดึงเชือกสตาร์ทยังไงก็ไม่ติด สุดท้ายเหนื่อยก่อนหญ้าจะสั้นอีกครับ 

ผมเองก็เคยพลาดแบบนี้เหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าเครื่องตัดหญ้ามันแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่ต้องดูแลอะไรมากหรอก แต่พอใช้ ๆ ไปแล้วเจออาการสตาร์ทยาก เลยถึงบางอ้อว่า จริง ๆ เครื่องเล็ก ๆ แบบนี้มันก็ต้องการการดูแลเหมือนกันครับ ไม่งั้นเจอคราบน้ำมันเก่า อากาศตัน หรือหัวเทียนสกปรก ก็พาให้เครื่องงอแงทันที

วิธีดูแลง่าย ๆ

• ใช้เสร็จควรเช็ดทำความสะอาดทันที
• ถ่ายน้ำมันออกถ้าไม่ได้ใช้เกิน 1 เดือน
• ตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง (สำหรับเครื่อง 4 จังหวะ)
• ลับหรือเปลี่ยนใบมีดตามรอบ

ควรทำอย่างไรให้ เครื่องตัดหญ้า สตาร์ทง่ายขึ้น?

• อุ่นเครื่องก่อนใช้งานจริง – เวลาดึงเชือกสตาร์ท ลองปิดโช้กก่อนแล้วดึงสัก 2–3 ครั้ง จากนั้นค่อยเปิดโช้กแล้วดึงอีกที ส่วนใหญ่เครื่องจะติดง่ายกว่าครับ ผมเองก็ใช้วิธีนี้บ่อย ๆ เวลาเครื่องเริ่มงอแง มันช่วยให้ติดเร็วขึ้นจริง ๆ
• อย่าลืมบีบลูกยางปั๊มน้ำมัน (Primer) – อันนี้หลายคนมักจะมองข้าม คิดว่าไม่จำเป็น แต่จริง ๆ แล้วเป็นขั้นตอนสำคัญเลยนะครับ เพราะการบีบลูกยางจะช่วยดันน้ำมันเข้าไปในคาร์บูเรเตอร์ได้ไวขึ้น พอถึงตอนสตาร์ท เครื่องก็พร้อมจุดติด ไม่ต้องดึงจนเหนื่อย
• ใช้เชื้อเพลิงคุณภาพดี – น้ำมันก็เหมือนอาหารของเครื่องครับ ถ้าใช้น้ำมันเก่าหรือผสมไม่ถูก เครื่องก็จะงอแง ติดยาก หรือดับง่าย ๆ แนะนำให้ใช้น้ำมันสดใหม่ และถ้าเป็นเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ก็ต้องผสมน้ำมัน 2T ให้ถูกสัดส่วนด้วย ไม่งั้นปัญหาตามมาแน่นอน

หลายๆคนพอตัดหญ้าเสร็จก็เก็บเลย ทั้งที่ยังมีน้ำมันค้างอยู่ในถังหรือคาร์บู พอเก็บไว้นาน ๆ น้ำมันจะเสื่อมและกลายเป็นคราบเหนียว อุดตันได้ วิธีง่าย ๆ คือถ่ายน้ำมันออกให้หมด แล้วติดเครื่องทิ้งไว้จนดับเอง แบบนี้จะช่วยไล่น้ำมันที่ค้างในคาร์บูออกไปด้วยครับ คราวหน้าหยิบมาใช้ เครื่องจะติดง่ายกว่าเยอะ

สรุป

โดยรสมแล้ว ถ้าคุณเจอ เครื่องตัดหญ้า ที่สตาร์ทยาก อย่าเพิ่งรีบหงุดหงิดหรือคิดจะซื้อใหม่นะครับ ลองตรวจทีละจุดตามที่เราได้เล่ามา น้ำมัน หัวเทียน คาร์บู และการดูแลพื้นฐาน เชื่อเถอะครับว่า 80% ของปัญหานี้แก้ได้ด้วยมือเราเอง ไม่ต้องเสียเงินเข้าร้านบ่อย ๆ